Skip to main content

สื่อสารอย่างสมาร์ท สไตล์เด็กยุคดิจิทัล

Kids U

สื่อสารอย่างสมาร์ท สไตล์เด็กยุคดิจิทัล

         ธรรมชาติของเด็ก เป็นวัยที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง อยากรู้อยากลองทำในสิ่งใหม่ ๆ เสมอ เริ่มที่จะมีจินตนาการและแสดงบทบาทสมมติจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ แต่ด้วยวัยของเขาการทำความเข้าใจในเรื่องราวต่าง ๆ อาจจะยากหน่อย การสื่อสารกับเด็กควรพูดสั้น ๆ และชัดเจน และควรเริ่มฝึกทักษะการสื่อสารให้เด็ก ๆ ตั้งแต่วันนี้เลย

            “เพราะเด็กยุคนี้ต้องมั่นใจ มีทักษะเชิงคิดวิเคราะห์”

ที่พระจอมเกล้าลาดกระบังเปิดศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต KMITL Lifelong Learning Center หรือ KLLC เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เรียนในทุกช่ว งวัย ล่าสุดก็ได้เปิดหลักสูตรสำหรับเด็กภายใต้โครงการ Kids University ปีนี้ก็ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว รอบนี้มีโอกาสดีได้ไปเป็โค้ชให้กับนักสื่อสารดิจิทัลรุ่นจิ๋ว ในหลักสูตร Digital Professional Communication and Presentation การสื่อสารอย่างมืออาชีพในยุคดิจิทัลด้วย และที่สำคัญคุณครูของเด็ก ๆ ในคลาสนี้ก็มีดีกรีเป็นถึงผู้ประกาศข่าวช่องดัง อย่างคนแรกเลยคุณแอน กมลวรรณ สุนทรธรรม ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 มาร่วมเป็นวิทยากรประจำหลักสูตร KMITL Masterclass ในวิชา Digital Communication ให้กับเด็ก ๆ คุณรสลิน เทพวัลย์ ผู้ประกาศข่าว NHK ก็มาช่วยสอนทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษ และอีกท่านที่ขาดไม่ได้อาจารย์ลูกปัฐม์ ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว คุณแม่ลูกสองที่เป็นนักส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารในวัยเด็ก เห็นชื่อครูประจำหลักสูตรแล้วรับรองคลาสนี้สนุกแน่!!

จะฝึกลูกอย่างไรให้เป็นนักสื่อสารที่ดี

ในยุคที่เด็ก ๆ เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีและความรวดเร็วของการสื่อสาร คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองคือคนใกล้ชิดที่สำคัญในการเป็นแบบอย่างในการฝึกฝนทักษะของเด็ก ๆ หากลองสังเกตดี ๆ เราจะเห็นว่าเด็กในยุคนี้สามารถเรียนรู้ได้ไวและมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่อง จากการที่ได้ไปเป็นโค้ชให้กับเด็ก ๆ รุ่นจิ๋ว ในคลาสแรก เด็ก ๆ ยังคงมีความเขินอาย ไม่กล้าออกห่างจากผู้ปกครอง เพราะอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่ และสภาพแวดล้อม แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะคุณครูและทีมโค้ชเตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนให้เด็ก ๆ ได้ละลายพฤติกรรมในแบบของการเป็นนักสื่อสารดิจิทัลไว้แล้ว ก็เริ่มตั้งแต่การฝึกการกำหนดลมหายใจ การควบคุมจังหวะการหายใจ การปล่อยพลังเสียง การออกเสียงตัวอักษรทั้งไทยและอังกฤษต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ มักออกเสียงผิด เช่น ตัวสอเสือและตัวเอส รวมถึงให้เด็ก ๆ มายืนบนเวีหน้าชั้นเรียนเพื่อปรับบุคลิกภาพในการยืน รวมถึงให้เด็ก ๆ ได้จับไมค์ลองแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวของตัวเองหน้าชั้นเรียน ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเด็ก ๆ ให้ความร่วมมือกับคุณครูดีขึ้นมีความกล้าแสดงออกมากขึ้น เริ่มพูดหน้าชั้นเรียนได้อย่างเสียงดังฟังชัด และสามารถเล่าเรื่องราวสร้างสรรค์ได้อย่างมีความมั่นใจในแบบของตัวเอง แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังคงกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ ในคลาสนี้คุณครูจึงได้ฝากการบ้านให้ผู้ปกครองกลับไปฝึกทักษะต่าง ๆ ให้ลูก ๆ ต่อ แล้วกลับมาเจอกันในคลาสต่อไป


เข้าสู่การเรียนการสอนในคลาสที่สอง วันนี้ให้คุณครูให้เด็ก ๆ แต่งตัวเป็น Super Hero ที่ชื่นชอบมาเรียนด้วย คลาสเรียนที่สองนี้เริ่มต้นด้วยการให้ทบทวนบทเรียนเมื่อคราวที่แล้ว ตั้งแต่การฝึกกำหนดลมหายใจ ควบคุมจังหวะการหายใจ และการเปล่งเสียง ในวันนี้เริ่มมองเห็นเด็ก ๆ หลายคนที่คราวก่อนยังเขินอายก็เริ่มกล้าที่จะพูดและออกเสียงมากยิ่งขึ้น ยิ่งในช่วงบทเรียนที่เป็นไฮไลท์ของคลาสวันนี้คือคุณครูและทีมโค้ชให้เด็ก ๆ เดินแบบแฟชั่นโชว์ พร้อมกับพรีเซนต์ชุด Super Hero ที่ใส่มา คุณครูและทีมโค้ชก็ได้พาเด็ก ๆ ไปแอบก่อน เพื่อทำการเก็บตัวและฝึกซ้อมการเดินการพูดก่อนที่จะออกมาให้ผู้ปกครองได้รับชม ระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมเริ่มสังเกตเห็นว่าเด็ก ๆ มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น สามารถคิดและออกแบบท่าโพสต์ในสไตล์ตัวเองได้อย่างมั่นใจ แถมยังสามารถคิดและสร้างสรรค์เรื่องราวจากการแต่งกายของตัวเองและร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย หลังจากเก็บตัวซ้อมจนเด็ก ๆ พร้อมที่จะออกไปแสดงแล้ว พวกเขาก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างมั่นใจไม่เขินอายอีกต่อไป

สองสัปดาห์ที่ได้มีโอกาสไปเป็นทีมโค้ชดูแลเด็กรุ่นจิ๋ว ก็ได้เห็นพัฒนาการทางด้านการสื่อสารของเด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้พวกเขาอาจจะจดจ่ออยู่กับบางสิ่งบางอย่างได้ไม่นานก็จริง แต่พวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาและยังสามารถเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ไวอีกด้วย บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองอาจจะต้องใช้วิธีสอนสลับกับการเล่น สร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้เด็ก ๆ รู้สึกไม่เบื่อ และคอยหมั่นฝึกฝนทักษะเบื้องต้นอย่างการกำหนดลมหายใจ การควบคุมจังหวะการหายใจ การปล่อยพลังเสียง และการออกเสียงตัวอักษรภาษาไทยและอังกฤษสม่ำเสมอ รวมถึงฝึกให้เขาได้พูดได้เล่าเรื่องบ่อย ๆ หรือจะฝึกทุกวันเลยก็ได้ การฝึกฝนเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ มีความเป็นผู้นำ มีความมั่นใจในตัวเอง พร้อมต่อการเป็นนักสื่อสารที่ดีต่อไปในอนาคต

นอกจากหลักสูตร Digital Professional Communication and Presentation แล้ว ก็ยังมีหลักสูตรอื่น ๆ อีกมากมายให้เด็ก ๆ ได้มาค้นหาความสามารถพิเศษของตัวเองกัน และตอนนี้ทางโครงการ Kids University 3 ก็กำลังเปิดรับสมัครในรอบที่ 2 อยู่ด้วย หากคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊กแฟนเพจ KidsUniversitybyKMITL

#kidsuniversity #talentfinder #digitalcommunication

Image

Share this page